ประกันชีวิตแบบบำนาญนั้น มีลักษณะเด่นด้วยกันสามเรื่องกล่าวคือ

1. ใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บออมเพื่อการเกษียณที่ปลอดภัยและมั่นคง ให้ผลตอบแทนแน่นอนไม่ผันผวน ทำให้การวางแผนใช้ชีวิตหลังเกษียณนั้นง่าย เพราะมีแหล่งรายได้แน่นอนตั้งแต่อายุ 60-85 ปี

ผลประโยชน์เงินบำนาญ
กรณีมีชีวิตอยู่ ณ วันที่ครบรอบปีกรมธรรม์ เมื่อผู้เอาประกันภัยมีอายุระหว่าง 60-85 ปี
- รับเงินบำนาญอัตรา 6.25% ของมูลค่าบำนาญตั้งต้น สำหรับเพศชาย
- รับเงินบำนาญอัตรา 5.95% ของมูลค่าบำนาญตั้งต้น สำหรับเพศหญิง
โดยสามารถเลือกรับบำนาญได้เร็วขึ้นตั้งแต่อายุ 56ปี ดังนั้นหากเราต้องการกระจายความเสี่ยงในการสะสมเพื่อการเกษียณ ประกันบำนาญเป็นเครื่องมือที่ให้ความแน่นอน เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ทเกษียณทั้งหมดได้

2. สามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกินปีละ 200,000 บาท และไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อนำไปรวมกับกองทุน RMF, SSF และ PVD โดยจำนวนเงินที่ลดหย่อนภาษีนั้น ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของผู้มีเงินได้ด้วย

ตัวอย่างเช่น หากนำเบี้ยประกันชีวิตประเภทบำนาญ 200,000 บาท ไปลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่มีเงินได้สุทธิ ระหว่าง 1-2 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมีฐานภาษี 25% ก็จะได้ลดหย่อนภาษี 50,000 บาทเป็นต้น

3. สามารถเลือกรับบำนาญระยะยาวหรือรับบำเหน็จแทนได้ หากผู้เอาประกันชำระเบี้ยเลือกรับบำนาญโดยทั่วไปจะรับเป็นงวดรายปี แต่สามารถแจ้งให้กระจายจ่ายเป็นรายเดือนเพื่อความสะดวกในการบริหารเงินได้ โดยจะเริ่มรับบำนาญได้ตั้งแต่อายุ 60-85 ปี หรือจะเลือกรับเป็นบำเหน็จเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียว ในปีถัดจากการชำระเบี้ยงวดสุดท้ายได้เช่นกัน

4. สามารถแนบอนุสัญญาเพิ่มเติมได้

5. ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต ก่อนอายุครบ 60 ปี (ก่อนรับเงินบำนาญ)